ที่ดินถมแล้วกับที่ดินเปล่าเสียภาษีต่างกันไหม?

ที่นากับที่ดินถมแล้ว เสียภาษีในการโอนที่ดินต่างกันไหม ?

มีคำถามครับว่าโอนที่ดินเป็นที่นา หรือ ที่ดินถมแล้ว เสียภาษีต่างกันไหม ?
เดี๋ยววันนี้จะมาให้คำตอบกันครับ

ในการโอนที่ดิน เพื่อซื้อขาย ที่ดินเปล่าทุกกรณี ค่าใช้จ่ายหลักๆ มันจะมีค่า ภาษีในการโอนที่ดิน ตัวภาษีธุรกิจเฉพาะ (ถ้ามีนะครับ) ตัวภาษีอากร และ ตัวสุดท้ายคือ ภาษีเงินได้

โดยปกติแล้ว ตัวภาษี หรือ ตัวค่าใช้จ่ายในการโอนเหล่านี้ เขาจะอ้างอิง กับ ราคาประเมิน (ของกรมที่ดิน) หรือ ว่าราคาซื้อขายเป็นหลัก ซึ่งปกติแล้วเวลาเราไปทำการโอนเพื่อซื้อขาย หรือ เวลาเราไปเสียภาษีส่วนใหญ่ เราก็ใช้ตัวราคาประเมิน (ของกรมที่ดิน) เป็นหลักนะครับ เราก็จะยึดตัวราคาประเมิน เพราะว่าโดยปกติแล้วราคาประเมินมันจะต่ำกว่าราคาที่เราซื้อขายจริงนะครับ

ไม่ว่าที่แปลงนั้น มันจะเป็นที่ถมแล้ว หรือ ว่ามันจะเป็นที่ที่เป็นหลุมเป็นบ่ออยู่ หรือ ยังไม่ได้ถมดิน ยังไงก็ตาม ราคาปรเมินจากกรมที่ดิน เขาใช้เป็นฐานในการคำนวณ มันก็คือ ตัวราคาประเมินของกรมที่ดิน อยู่ดีนะครับ เพราะฉะนั้น สุดท้ายแล้ว การโอนที่ดิน รายปี ไม่ว่าจะเป็นที่ที่ถมแล้ว หรือ ที่ดินเปล่า ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้แจ้งราคาซื้อขายจริง เราก็จะใช้ตัวราคาประเมินเป็นหลักครับ เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายจึงจะต่างกัน

เริ่มต้นต้น จะถมดิน ควรทำอย่างไรดี

ศึกษาข้อมูลจากในเว็บ เบี้องต้น

โทรหาเรา เพื่อให้ข้อมูล หลักๆ ประมาณ 4 อย่าง
ข้อมูลที่เราต้องการ เพื่อประเมินราคา ถมดินทางโทรศัพท์

📍 ตำแหน่งที่ตั้งของที่ดิน : สำหรับการคำนวณระยะทาง ในการขนส่งดิน และ ขนาดของถนน เพื่อรถบรรทุก ในการทำงาน เช่น บางซอยในกรุงเทพ หรือ บางหมู่บ้าน จำกัดให้ใช้ได้เพียง รถบรรทุกหกล้อ
📍 ขนาดพื้นที่ ที่ต้องการถม : เพื่อคำนวณปริมาณการใช้ดิน
📍 ระดับความลึกในการถม : เพื่อประเมินราคาการใช้ปริมาณดิน ซึ่งอาจกะคราวๆ ว่าลึกประมาณเท่าไร
📍 เน้นถมที่ดินเพื่อทำอะไร : เพื่อเลือกชนิดของดิน ให้ท่าน เช่น ถมดินสร้างบ้าน, ถมดินดานทำโรงงาน, หน้าดินปลูกต้นไม้ ดินลูกรังทำถนน ซึ่งราคาชนิดของดิน จะแตกต่างกัน

เมื่อยอมรับราคาประเมินค่าถมดิน ที่เสนอทางโทรศัพท์ได้ สามารถนัดวัดที่ดินจริง ได้

“ในการวัดที่ดิน เราให้บริการ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”

ประเมินเวลา ในการวัดที่ดิน ด้วยกล้องวัดระดับ เพื่อเสนอราคา
ขนาด เล็กกว่า 100 ตารางวา : ประมาณ 20 นาที ทราบผลราคา
ขนาด ประมาณ 100 ตารางวา ถึง 1 ไร่ : ประมาณ 30 นาที
ขนาด เกิน 1 ไร่ จนถึง 5 ไร่ : ใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง
เกินกว่า 5 ไร่ :

รับถมดิน รับเหมาถมดิน กรุงเทพฯ ปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาผู้รับเหมาถมดิน ดีลงานตรง ไม่ผ่านนายหน้า

เครื่องจักรทันสมัย ทีมช่างมืออาชีพ มีประสบการณ์ มากกว่า 20+ปี

ราคาเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบลูกค้า เรายินดีให้บริการค่ะ

เกรียงไกร รับถมดิน 087-981-2102

เพื่อเป็นการรักษาพื้นที่ หรือ ที่ดินของเรา ให้มีความพร้อม และ มีประสิทธิภาพในการใช้งาน

การถมดินจึงเป็นประโยชน์และเหมาะสมสำหรับการใช้งานที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพยากรที่ดินของเราได้อีกด้วย

การคำนวณที่ดิน

  • มาตราส่วนการวัด

1 ไร่ คือ ขนาดพื้นที่ 400 ตารางวา หรือ 1600 ตารางเมตร

1 งาน คือ ขนาดพื้นที่ 100 ตารางวา หรือ 400 ตารางเมตร

1 ตารางวา คือ (กว้าง2เมตร X ยาว2เมตร) หรือ 4 ตารางเมตร

รับถมที่ดิน พร้อมปรับเกลี่ย

เรารับถมดินทุกประเภท ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่

เพื่อสร้างบ้าน, อาคาร, ตึก, หน่วยงานภาครัฐ, โรงงาน, โกดังสินค้า, ทำถนน, ลานจอดรถ, ปลูกต้นไม้เลี่ยงภาษี

ยินดีให้คำปรึกษา พร้อมออกประเมินหน้างานให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

จำหน่ายหน้าดิน ดินถุง ดินปลูก ทุกประเภท

เราจำหน่ายหน้าดิน ที่เหมาะแก่การเพาะปลูก

ดินดำ ดินถมทั่วไป สำหรับการสร้างบ้าน

ดินดาน (ซีแลค) สำหรับทำพื้นถนน ลานจอดรถ

ดินไซต์งาน ลูกรัง หินคลุก หินเกล็ด ทรายหยาบ ทรายละเอียด พร้อมจัดส่งทุกชนิด

บริการรื้อถอน รื้อบ้าน ทุบตึก

เราให้บริการงานรื้อถอน รื้อถอนบ้าน รื้อถอนอาคาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทุกชนิด

โดยทีมงานที่มีความรู้ มีประสบการณ์ และความเชี่ยญชาญ

ดำเนินการตามขั้นตอน ตามหลักวิศวกรรม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร

สนใจติดต่อสอบถาม

ยินดีให้คำปรึกษาฟรี พร้อมให้คำแนะนำ 087-981-2102

ดินมีกี่ประเภท ที่ใช้ถมดิน ในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล

ว่าด้วยเรื่องการถมดิน ในพื้นที่ กรุงเทพ และ ปริมณฑล เราจะแนะนำแบบง่ายๆ เพื่อความเข้าใจ สำหรับท่านเจ้าของที่ดินในการตัดสินใจเลือกถมดิน ทั้งนี้ ชนิดของดิน จะเป็นตัวแปรในเรื่องระยะทาง และ ความคุ้มค่าของราคาถมดิน จึงมีข้อจำกัดของชนิดดินที่ใกล้บริเวณกรุงเทพ และ ปริมณฑล (ข้อความนี้ อาจไม่เหมาะกับพื้นที่ต่างจังหวัด เพราะ แหล่งดินไกล้พื้นที่นั้นๆ จะแตกต่างไปตามพื้นที่) ซึ่งดินแต่ละชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป

ดินเป็นสื่อกลางในการเจริญเติบโตของพืช ดังนั้นการรู้ประเภทของดินจึงมีความสำคัญมาก เนื่องจากจะเป็นตัวกำหนด และข้อจำกัดในการปลูก

นอกจากนี้เรายังสามารถตัดสินใจได้ในทันที ว่าดินชนิดไหนเหมาะกับการปลูกพืชในสวนของเรา

รากของพืชจะกระจายได้อย่างอิสระ ในดินที่ร่วนซุย และสามารถดึงน้ำและสารอาหารได้ง่าย

ส่วนดินที่แข็งและถูกบดอัด จะถูกขัดขวางไม่ให้รากแพร่กระจายไปถึงสารอาหารและน้ำ

พืชที่ปลูกในดินที่แข็งและมีความแห้งแล้ง ก็จะมีลักษณะแคระแกรนได้

ประเภทของดิน

ประเภทของดินจะแบ่งตามลักษณะเนื้อสัมผัส ในประเทศไทยจะพบดินเพียง 3 ประเภท

ได้แก่ ดินเหนียว, ดินร่วน, ดินทราย

  • ดินเหนียว (Clay Soil)

เป็นดินที่มีความละเอียดมาก และเป็นดินประเภทที่หนักและหนาแน่นที่สุด

อนุภาคในดินถูกอัดแน่นเข้าด้วยกัน และมีช่องว่างระหว่างอนุภาคดินไม่มาก ทำให้ระบายน้ำไม่ดี แต่กักเก็บน้ำได้ดี

ดินนี้เมื่อเปียกจะให้สัมผัสที่เหนียวมาก แต่จะเรียบและแตกร้าวเมื่อแห้ง

  • กักเก็บน้ำได้ดีมาก
  • มีความยืดหยุ่นสูง
  • ดูดซับแร่ธาตุและอาหารได้ดี

  • ดินร่วน (Loam Soil)

มีลักษณะละเอียด ร่วน เป็นดินที่ผสมผสานระหว่างดินทราย,ดินเหนียว และตะกอน ในสัดส่วนที่สมดุล

มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชื้นและสารอาหาร ตะกอนจะช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างช่วยให้แร่ธาตุ, อินทรียวัตถุ และน้ำ แทรกเข้าไปหล่อเลี้ยงพืช

ดินร่วนจึงเป็นดินที่เหมาะแก่การทำการเกษตรมากกว่าดินชนิดอื่น

  • ระบายน้ำได้ดี กักเก็บความชื้นได้ดี
  • เป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์
  • เหมาะสำหรับการเพาะปลูกทั่วไป

  • ดินทราย (Sandy Soil)

ดินทรายประกอบด้วยดินผุกร่อนขนาดเล็ก มักเกิดจากการแตกตัวของหินต่างๆ มีสัมผัสที่ค่อนข้างสาก

เป็นดินที่มีน้ำหนักเบา ระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ดินประเภทนี้ดีต่อระบบระบายน้ำมาก

ในดินมีส่วนประกอบของทรายมากกว่า 85% จึงทำให้เก็บสารอาหารได้น้อย

  • เนื้อหยาบ ผิวสัมผัสสาก
  • ระบายน้ำได้ดี แห้งเร็ว
  • มีน้ำหนักเบา