การถมที่ดินรอบบ้านด้วยดินลูกรัง

ราคาของดินลูกรัง (Red Gravel/Lateritic Soil) จะแปรผันอย่างมากตามหลายปัจจัยหลักๆ ได้แก่ :

1. ระยะทางขนส่ง : ยิ่งไกลจากแหล่งตักดิน (บ่อดิน) ราคายิ่งสูงขึ้น

2. ปริมาณที่สั่ง : สั่งเยอะราคาต่อหน่วยอาจถูกลง

3.ประเภทของรถขนส่ง : รถขนาดเล็ก, รถ 6 ล้อ, หรือ รถ 10 ล้อ

โดยทั่วไปแล้วในประเทศไทย ราคาโดยประมาณ (สำหรับการขนส่งในระยะทางที่ไม่ไกลเกินไป) สามารถแบ่งได้ดังนี้ :

  • รถบรรทุก 6 ล้อ (ความจุประมาณ 5-7 คิว) : ราคาอาจอยู่ระหว่าง 1,200 – 2,500 บาท ต่อเที่ยว/คัน
  • รถบรรทุก 10 ล้อ (ความจุประมาณ 10-15 คิว) : ราคาอาจอยู่ระหว่าง 2,500 – 5,000 บาท ต่อเที่ยว/คัน

คำแนะนำ : เพื่อให้ได้ราคาที่แน่นอนและดีที่สุด ควรโทรสอบถามและเปรียบเทียบราคาจากผู้รับเหมาหรือร้านค้าวัสดุในพื้นที่อย่างน้อย 2-3 แห่ง และระบุปริมาณดินที่ต้องการเป็นหน่วย คิว (ลูกบาศก์เมตร) ให้ชัดเจน เพื่อให้การคำนวณราคาแม่นยำ

  • เคลียร์พื้นที่ : กำจัดเศษวัสดุก่อสร้าง หรือวัชพืชต่างๆ เพื่อให้พื้นดินเดิมสะอาดและพร้อมรับการถม
  • กำหนดระดับ : ใช้เชือก, ระดับน้ำ, หรือเครื่องมือวัดระดับเลเซอร์ เพื่อกำหนดขอบเขตและความสูงที่ต้องการถมดินลูกรัง โดยมักจะกำหนดให้ดินที่ถมใหม่มีความสูงต่ำกว่าระดับพื้นบ้านหรือพื้นอาคารเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำท่วม
  • ขนส่งดิน : เมื่อรถบรรทุกดินลูกรังมาถึง ควรตรวจสอบคุณภาพดินเบื้องต้นว่ามีเศษวัสดุเจือปนน้อยหรือไม่
  • เทดิน : สั่งให้รถบรรทุกเทดินลงในจุดที่เข้าถึงง่ายและเป็นกองดินขนาดใหญ่ เพื่อให้แรงงานสามารถตักและกระจายดินได้สะดวก
  • การกระจายดินด้วยแรงงานคน : เนื่องจากพื้นที่รอบบ้านมักมีข้อจำกัดด้านพื้นที่แคบ และอาจไม่สามารถนำเครื่องจักรหนัก (เช่น รถตัก/Backhoe) เข้ามาทำงานได้ แรงงานจึงต้องใช้เครื่องมือพื้นฐาน เช่น พลั่ว และใช้ตะกร้าสาน/บุ้งกี๋ ในการตักและขนย้ายดินลูกรังจากกองดินใหญ่ไปกระจายในพื้นที่เป้าหมาย
  • การปรับระดับหยาบ : ใช้พลั่วหรือจอบเกลี่ยดินลูกรังให้กระจายทั่วพื้นที่ที่ต้องการถม ให้ได้ระดับที่ใกล้เคียงกับระดับที่กำหนดไว้ในขั้นตอนที่ 1
  • บดอัด : เนื่องจากพื้นที่ที่เตรียมไว้สำหรับการใช้สอยรอบบ้าน การบดอัดดิน จึงเป็นขั้นตอนสำคัญมาก ดินลูกรังจะแน่นได้ดีเมื่อมีความชื้นที่เหมาะสม
  • การบดอัดด้วยแรงงานคน/เครื่องมือขนาดเล็ก : ในพื้นที่แคบอาจใช้ เครื่องตบดิน (Vibratory Plate Compactor) หรือลูกกลิ้งขนาดเล็กมาทำการบดอัดเป็นชั้นๆ เพื่อให้ดินแน่น ไม่ยุบตัวในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้พื้นผิวพร้อมสำหรับการวางแผ่นพื้นสำเร็จรูป เทคอนกรีต หรือปูทางเดินได้ทันที
  • ปรับระดับละเอียด : เมื่อบดอัดแล้ว ให้ตรวจวัดระดับอีกครั้งเพื่อความแม่นยำ และทำการเกลี่ยผิวหน้าดินลูกรังให้เรียบเนียนที่สุด
  • เก็บขอบและทำความสะอาด : ทำความสะอาดเศษดินหรือวัสดุที่กระเด็นไปบริเวณอื่นๆ เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน การถมที่ดินรอบบ้าน ด้วยดินลูกรัง

ผลงานการถมที่ดิน ประเสริฐมนูกิจ 5 กรุงเทพฯ

เราภูมิใจนำเสนอผลงานการถมดิน เพื่อปรับปรุงพื้นที่รกร้าง ให้พร้อมสำหรับการใช้งานและการเพาะปลูก โดยเฉพาะการปลูก ต้นมะม่วง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ

  • ลักษณะเดิม : พื้นที่เดิมเป็นที่รกร้างว่างเปล่า มีวัชพืชขึ้นหนาแน่น และระดับดินไม่สม่ำเสมอ * การดำเนินการ : เราใช้เครื่องจักรหนัก (เช่น รถแบ็คโฮ หรือ รถขุดขนาดเล็ก) ในกา รเคลียร์วัชพืช ขุดตอไม้ และ ไถพรวนดิน ให้เกิดการระบายน้ำได้ดี และพร้อมรับดินถมชุดใหม่
  • เน้นผลงาน : พื้นที่ถูกปรับระดับอย่างพิถีพิถัน ทำให้เกิดความเรียบเสมอกันทั่วทั้งแปลง ขอบเขตพื้นที่ ที่ติดกับขอบรั้วและอาคารถูกจัดระเบียบให้มีความลาดเอียงที่เหมาะสม ป้องกันน้ำท่วมขัง
  • วัสดุถม : เราเลือกใช้ ดินถมคุณภาพดี ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เช่น ดินลูกรัง เพื่อความแน่นทนทาน หรือ ดินดำ (หน้าดิน) ที่มีอินทรียวัตถุสูง เพื่อใช้เป็นชั้นบนสุดสำหรับการเพาะปลูกโดยเฉพาะ (คำถามที่พบบ่อย: ถมดินอะไรดีที่สุด?)
  • เทคนิคการถม : การถมดำเนินการเป็นชั้นๆ และมีการบดอัด อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ดินแน่น ไม่ยุบตัวในภายหลัง (คีย์เวิร์ด: วิธีถมดินให้แน่น, ดินทรุดตัว)
  • ความสูงและระยะเวลา : ความสูงของการถมเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าและระดับถนนโดยรอบ เพื่อ หนีน้ำท่วม และยกระดับพื้นที่ให้ดูสวยงาม (คำถามที่พบบ่อย: ถมดินกี่วันถึงปลูกได้, ถมดินสูงเท่าไหร่ดี)
  • สายพันธุ์ : จากภาพถ่าย แสดงให้เห็นถึงการปลูก ต้นมะม่วงขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ซึ่งเราได้เน้นสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมและตลาดต้องการ เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง หรือ มะม่วงเขียวเสวย
  • วิธีการปลูก :
    การเตรียมหลุม : ขุดหลุมให้มีขนาดใหญ่กว่าถุงเพาะ 2-3 เท่า และผสมดินเดิมกับ ปุ๋ยคอก หรือวัสดุปรับปรุงดิน *ระยะห่าง มีการเว้นระยะปลูกมะม่วง ที่เหมาะสม (เช่น 6 X 6 เมตร หรือ 8 X 8 เมตร) เพื่อให้ต้นเติบโตเต็มที่และรับแสงได้ทั่วถึง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลผลิตในอนาคต
    การดูแลเบื้องต้น : หลังปลูก มีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และใช้ไม้ค้ำยันเพื่อป้องกันลำต้นโค่นล้ม
  • ผลลัพธ์ : พื้นที่ที่เคยรกร้าง ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นแปลงปลูกที่มีศักยภาพสูง โครงสร้างนี้แสดงให้เห็นว่า การถมดิน ไม่ได้เป็นเพียงการปรับระดับ แต่เป็นการลงทุนในที่ดิน เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างผลผลิตได้อย่างยั่งยืน

ขายที่ดินย่านลาดพร้าว ขนาดพื้นที่ 65 ตารางวา พร้อมข้อมูลถมที่ดิน

ที่ดินขนาด 65 ตารางวา เป็นทรัพย์สินที่เจ้าของขายเอง ในราคาเพียง 6 ล้านบาท (ไม่รับนายหน้า) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านพักอาศัยส่วนตัวในสังคมคุณภาพ หรือลงทุนเพื่ออนาคต

การถมที่ดินถือเป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรกในการเตรียมพื้นที่สำหรับก่อสร้าง การถมดินที่ถูกวิธีและเหมาะสมจะช่วยให้รากฐานของอาคารมีความมั่นคง ไม่ทรุดตัวในระยะยาว และยังช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังอีกด้วย

ก่อนที่จะทราบจำนวนเที่ยวรถบรรทุกที่ต้องใช้ เราต้องคำนวณปริมาณดิน (เป็นคิวบิกเมตร หรือ คิว) ที่ต้องใช้ก่อน โดยมีขั้นตอนดังนี้ :

ที่ดิน 1 ตารางวา เท่ากับ 4 ตารางเมตร (ตร.ม.)

  • พื้นที่ดิน : 65 ตร.ว. X 4 ตร.ม./ตร.ว. = 260 ตารางเมตร

ในการถมที่ดิน มักจะถมให้สูงกว่าระดับถนนสาธารณะประมาณ 50 เซนติเมตร – 1 เมตร (เพื่อป้องกันน้ำท่วมและรองรับการทรุดตัว)

  • สมมติว่าต้องการถมให้สูง 1.0 เมตร
  • ปริมาณดิน (คิว) : พื้นที่ (ตารางเมตร) X ความสูง (เมตร)
  • 260 ตารางเมตร X 1.0 เมตร = 260 คิว

ดินที่ถมใหม่จะมีการยุบตัวหลังจากการบดอัดและเมื่อเวลาผ่านไป ควรเผื่อปริมาณดินเพิ่มประมาณ 20%

  • ปริมาณดินที่ต้องใช้จริง : 260 คิว X 1.20 = 312 คิว
รายละเอียดการคำนวณปริมาณที่ต้องใช้
พื้นที่ดิน (ตารางเมตร)65 ตารางวา X 4260 ตารางเมตร
ความสูงที่ต้องการถม(สมมติสูงกว่าถนน 1 เมตร)1.0 เมตร
ปริมาณดินเบื้องต้น260 ตารางเมตร X 1.0 เมตร260 คิว
ปริมาณเผื่อยุบตัว 20%260 คิว X 0.2052 คิว
ปริมาณดินรวมทั้งหมด260 คิว + 52 คิว312 คิว

การขนส่งดินถมมักใช้รถบรรทุก 6 ล้อ หรือ 10 ล้อ ซึ่งมีขนาดบรรทุกแตกต่างกันไป และราคาจะขึ้นอยู่กับชนิดของดิน (ดินดำ/ดินเหนียว/ดินลูกรัง/ดินดาน/ดินซีแลค) และระยะทางขนส่ง

ประเภทรถบรรทุกความจุต่อเที่ยวจำนวนเที่ยวที่ต้องใช้ (ปัดเศษขึ้น)ราคาดินถม/เที่ยวค่าใช้จ่ายโดยรวม (โดยประมาณ)
รถ 6 ล้อ4 – 6 คิว/เที่ยว312 คิว ÷ 5 คิว = 63 เที่ยว= 1,800 – 2,800 บาท113,400 – 176,400 บาท
รถ 10 ล้อ8 – 12 คิว/เที่ยว312 คิว ÷ 10 คิว = 32 เที่ยว= 2,500 – 5,000 บาท80,000 – 160,000 บาท

หมายเหตุ : ราคาถมดิน 1 เที่ยว เป็นราคาโดยประมาณ ณ ปี 2568 อาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามแหล่งดิน และระยะทางการขนส่ง ควรสอบถามราคาก่อนดำเนินการ

เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และมีบ้านเรือน/อาคาร การพิจารณาเรื่องการถมดินจึงเป็นสิ่งสำคัญ :

  • ป้องกันน้ำท่วม : พื้นที่ในเขตเมืองอาจเผชิญปัญหาน้ำท่วมขัง การถมดินให้สูงกว่าระดับถนนจะช่วยปกป้องอาคาร และทรัพย์สินในอนาคตได้เป็นอย่างดี
  • ความมั่นคงของฐานราก : การถมด้วยดินที่เหมาะสม (เช่น ดินลูกรัง หรือ ดินดำ ดินถมทั่วไป) และมีการบดอัดที่ดี จะช่วยให้การสร้างฐานรากสำหรับบ้าน มั่นคงขึ้น
  • การเข้าออกของรถบรรทุกขนดิน : จะเห็นว่าซอยค่อนข้างกว้าง สามารถรองรับการเข้าออกของรถบรรทุกขนาด 6 ล้อ หรือ 10 ล้อได้ ซึ่งจะช่วยให้การขนส่งดินเป็นไปอย่างรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายต่อคิวมากขึ้น

ที่ดินแปลงนี้ตั้งอยู่ในซอยที่เงียบสงบ แต่ไม่ห่างไกลจากความสะดวกสบายของชีวิตเมือง การเดินทางเข้า-ออกสู่ถนนหลัก เช่น ถนนนาคนิวาส, ถนนลาดพร้าว และถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วนรามอินทรา) ทำได้อย่างสะดวกสบายมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบส่วนตัว แต่ยังคงต้องการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้ง่าย

ที่ดินสวยขนาด 65 ตารางวา ในราคา 6 ล้านบาท (พร้อมโอนกรรมสิทธิ์) ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากสำหรับการลงทุนและสร้างที่อยู่อาศัยในย่านลาดพร้าว

ตัวอย่างงานถมดินใกล้ฉัน

รีวิวงานถมดินที่เพิ่งดำเนินการเสร็จสิ้นในพื้นที่ใกล้บ้าน เพชรเกษม 69, กรุงเทพฯ นี่เป็นตัวอย่างงานที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนสภาพที่ดินเปล่า ที่มักมีน้ำขังหรือระดับต่ำ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่พร้อมสำหรับการก่อสร้างหรือการใช้งานอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนหน้านี้ ที่ดินผืนนี้เป็นที่ว่างเปล่ามีระดับต่ำกว่าถนนและพื้นที่ข้างเคียงค่อนข้างมาก ทำให้ปัญหาเรื่องน้ำขังโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน การถมดินจึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดในการเตรียมพื้นที่สำหรับการพัฒนาต่อไป

  • ภาพแสดงถนนทางเข้าสู่พื้นที่โครงการ เป็นถนนคอนกรีตในซอยที่มีบ้านเรือนและต้นไม้โดยรอบ บรรยากาศเงียบสงบ งานถมดินใกล้ฉัน ในทำเลแบบนี้ต้องคำนึงถึงการขนส่งดิน และการรบกวนเพื่อนบ้านเป็นพิเศษ
  • ภาพสภาพที่ดินก่อนการถม มีลักษณะเป็นดินโคลนเปียกชื้น และมีระดับต่ำกว่าบ้านข้างเคียงอย่างเห็นได้ชัด พื้นที่แบบนี้จำเป็นต้องได้รับการถมและบดอัดอย่างเหมาะสมเพื่อความมั่นคงในอนาคต

หลังจากเคลียร์พื้นที่และกำหนดระดับความสูงที่ต้องการแล้ว ก็เริ่มขั้นตอนการนำดินมาลง ซึ่งในงานนี้มีการใช้รถแบคโฮขนาดเล็กในการเกลี่ยดิน เพื่อความสะดวกในการทำงานในพื้นที่จำกัดของซอยในเขต เพชรเกษม 69 กรุงเทพฯ

  • รถแบคโฮกำลังทำงานในการเกลี่ยดินที่นำมาลงใหม่ ส่วนปลายแขนของรถกำลังตักและปรับระดับดินโคลนให้กระจายทั่วพื้นที่ การใช้เครื่องจักรช่วยให้การเกลี่ยดินทำได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ
  • ภาพมุมต่ำแสดงให้เห็นปริมาณดินที่ถูกถมขึ้นมา และรถแบคโฮที่กำลังดำเนินการปรับหน้าดิน การยกดินให้สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม และเตรียมความพร้อมสำหรับการบดอัดในขั้นตอนต่อไป

หลังจากเกลี่ยดินทั้งหมดตามระดับที่กำหนดเสร็จสิ้น หน้าที่ดินจะถูกปล่อยให้เช็ตตัวและบดอัดตามธรรมชาติ (หรือใช้เครื่องบดอัดหากต้องการความหนาแน่นในทันที) ในภาพนี้จะเห็นร่องรอยการทำงานของเครื่องจักร และมีการปลูกพืชเล็กๆน้อยๆ เพื่อช่วยยึดหน้าดินชั่วคราว

  • สภาพพื้นที่ดินหลังการถมและเกลี่ยดินเสร็จสมบูรณ์ พื้นที่ดูกว้างขึ้นและมีระดับที่เหมาะสมแล้ว จะเห็นร่องรอยของดินที่ถูกปรับปรุงและต้นอ่อนที่ถูกปลูกไว้ ซึ่งอาจเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อรอพัฒนาพื้นที่ต่อไป

งานถมดินใกล้ฉัน ในพื้นที่ เพชรเกษม 69 กรุงเทพฯ ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี พื้นที่ที่เคยต่ำและเปียกแฉะ ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่ที่มีระดับสูงและพร้อมใช้งาน การเลือกผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ และการวางแผนการขนส่งดินที่ไม่รบกวนเพื่อนบ้านถือเป็นกุญแจสำคัญของโครงการนี้ หากคุณกำลังมองหางานถมดินในบริเวณใกล้เคียง การเตรียมตัวและศึกษาผู้รับเหมาเป็นสิ่งที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาดครับ

ขายที่ดินใกล้ฉัน ขายที่ดินลาดพร้าว ที่ดินถมแล้ว

หากกำลังมองหาที่ดินแปลงเล็กกำลังดี ในทำเลศักยภาพที่เดินทางสะดวก ใกล้เมือง และพร้อมให้คุณเริ่มสร้างบ้นในฝัน หรือพัฒนาเป็นทรัพย์สินเพื่อการลงทุน

  • สถานที่ : ซอยลาดพร้าว 101 แยก 42
  • ขนาดที่ดิน : 55 ตารางวา
  • สัดส่วน : กว้าง 10 เมตร X ยาว 22 เมตร
  • ราคาพิเศษ : 1.99 ล้านบาท (ราคานี้รวมค่าใช้จ่ายในการโอนทั้งหมดแล้ว)
  • การติดต่อ : คุณบาส 088-234-9697 (เจ้าของขายเอง)

ที่ดินใกล้ฉันแปลงนี้ตั้งอยู่ในซอยที่เงียบสงบ แต่เข้าออกได้สะดวก ไม่ว่าคุณจะเลือกสร้างบ้านพักอาศัยที่ต้องการความส่วนตัว หรืออาคารสำนักงานขนาดเล็ก ที่ดินใกล้ฉันแปลงนี้คือทำเลที่มอบความคุ้มค่าทั้งด้านราคาและศักยภาพในอนาคต

การถมที่ดินคือขั้นตอนสำคัญอันดับแรกในการเตรียมที่ดินให้พร้อมสำหรับการก่อสร้าง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม และสร้างระดับพื้นที่ที่มั่นคง เราได้เตรียมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่อง “คิวดิน” และปริมาณดินที่ต้องใช้มาให้คุณแล้ว

“คิว” คือคำย่อที่ใช้เรียกหน่วยวัดปริมาณของวัสดุต่างๆ ในงานก่อสร้าง เช่น ดิน หิน ทราย ซึ่งย่อมาจากคำว่า “คิวบิกเมตร” (Cubic Meter หรือ ลบ.ม.)

1 = 1 X 1 X 1

ที่ดินใกล้ฉันแปลงนี้ มีขนาด 55 ตารางวา (กว้าง 10 เมตร X ยาว 22 เมตร) เรามาแปลงหน่วยเป็นตารางเมตรและคำนวณปริมาณดินกัน :

1 = 4
= 55 . X 4 = 220

(คุณสามารถใช้ กว้าง 10 เมตร X ยาว 22 เมตร = 220 ตารางเมตรได้เลย)


โดยทั่วไป การถมดินเพื่อสร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มักจะถมสูงกว่าระดับถนนหรือพื้นที่ข้างเคียงประมาณ 50-100 เซ็นติเมตร (0.5 – 1 เมตร)

  • ตัวอย่างการถมสูง 1 เมตร (1.00 เมตร) :
    = X
    = 220 .. X 1.0 . = 220


เมื่อถมดินแล้ว ดินจะถูกบดอัดและยุบตัวลงตามธรรมชาติ เพื่อให้ได้ความสูงที่ต้องการ จึงจำเป็นต้องสั่งดินเผื่อไว้ประมาณ 20% – 30%

  • ตัวอย่างการเผื่อ 20% :
    = 220 X 20% = 44
    = 220 + 44 = 264

สรุป : หากคุณต้องการถมที่ดินให้สูงขึ้น 1 เมตร (เช่น เพื่อหนีน้ำท่วม) คุณควรเตรียมงบประมาณสำหรับสั่งดิน ประมาณ 260 – 280 คิว

การเลือกชนิดของดินถม มีความสำคัญต่อความมั่นคงของโครงสร้างในอนาคต ควรเลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งาน :

ประเภทดินลักษณะเด่นเหมาะสำหรับ
1. ดินทราย/ดินดาน (Sand/Lateritic Soil)ราคาถูก ยุบตัวเร็ว ระบายน้ำได้ดี แต่ไม่เหมาะกับการเพาะปลูกการถมเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน, ลานจอดรถ หรือถมรองพื้นก่อนวางวัสดุอื่นทับ
2. ดินลูกรัง (Laterite Soil)มีความแข็งแรง แห้งเร็วมากการถมที่ต้องการความแน่นสูง
3. ดินเหนียว (Clay Soil)กักเก็บน้ำได้ดี ไม่เหมาะกับการปลูกต้นไม้และงานโครงสร้างการถมเพื่อทำบ่อ หรือใช้งานในที่ไม่ต้องการความแน่นมาก
4. หน้าดิน/ดินปลูก (Topsoil)เนื้อดินร่วน มีแร่ธาตุและอินทรียวัตถุสูงการถมชั้นบนสุด (ประมาณ 30-50 เซนติเมตร) สำหรับการจัดสวนหรือปลูกต้นไม้

คำแนะนำสำหรับการสร้างบ้าน : ควรใช้ดินดำ ดินลูกรัง หรือ ดินทราย/ดินดาน ถมเป็นชั้นล่างเพื่อบดอัดให้แน่น และปิดท้ายด้วยหน้าดิน หากต้องการจัดสวน

ที่ดินในทำเล ลาดพร้าว 101 เป็นทำเลที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจลงทุนในวันนี้คือรากฐานความมั่งคั่งในอนาคต ด้วยขนาดที่ดินที่จัดการง่าย และราคาที่รวมค่าโอนไว้แล้ว ทำให้คุณเริ่มต้นสร้างฝันได้อย่างสบายใจ

ขายที่ดินใกล้ฉัน ที่ดินลาดพร้าว 101 ที่ดินถมแล้ว

คุณกำลังมองหาที่ดินเปล่าใกล้ฉัน แต่เหนื่อยกับการเริ่มต้นตั้งแต่ศูนย์ใช่หรือไม่?
ลืมภาพที่ดินรกร้าง ต้องทุ่มงบมหาศาลในการถมที่ดิน ปรับระดับ และรอเวลาให้ดินเซ็ตตัวไปได้เลย
เราขอนำเสนอที่ดิน 149 ตารางวา ในทำเลทองลาดพร้าว 101 แยก 45 ที่โดดเด่น ด้วยการเป็นที่ดินที่พร้อมที่สุด สำหรับการเริ่มต้นโครงการของคุณ

ที่ดินใกล้ฉันแปลงนี้ไม่ใช่แค่ถมแล้ว แต่ยังได้รับการปรับปรุงให้มี พื้นคอนกรีตบางส่วน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความพร้อมในการพัฒนา :

  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการถมดิน : ที่ดินถูกถมและประบระดับเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถตัดงบประมาณ และระยะเวลาในการถมดินไปได้ทันที
  • ลดปัญหาความไม่แน่นอน : สภาพดินแข็งแรง และมีพื้นคอนกรีตช่วยลดปัญหาการทรุดตัวของดิน ทำให้คุณมั่นใจในการลงเสาเข็ม และการก่อสร้าง
  • ใช้ประโยชน์ได้ทันที : สามารถใช้เป็นลานจอดรถส่วนตัวชั่วคราว, ที่เก็บวัสดุ, หรือแม้แต่พื้นที่กิจกรรมกลางแจ้งได้ทันทีที่คุณเป็นเจ้าของ ก่อนเริ่มสร้างจริง
รายการรายละเอียด
ขนาดที่ดิน149 ตารางวา
ราคาต่อตารางวา54,000 บาท
ราคายกแปลง (รวม)8,046,000 บาท
หน้ากว้าง21 เมตร
ความลึก28 เมตร
รูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสสวยงาม
ค่าใช้จ่ายโอน ฟรี!

ที่ดินตั้งอยู่ในซอยที่เงียบสงบ แต่เชื่อมกับถนนสายหลักได้อย่างรวดเร็ว

  • การเข้าถึง : เข้าซอยจากถนนหลักเพียง 120 เมตร
  • ศูนย์กลางคมนาคม :
    – ใกล้ถนนโพธิ์แก้ว และ ถนนนวมินทร์
    – เชื่อมต่อสู่ เลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (รามอินทรา, บางกะปิ)
    – เดินทางสะดวกสู่ เกษตร-นวมินทร์
    – ใกล้ BTS สถานีลาดพร้าว 101 ทำให้การเดินทางเข้าเมืองเป็นเรื่องง่าย
  • ศักยภาพการลงทุน : ทำเลลาดพร้าว 101 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การถือครองที่ดินใกล้ฉันในบริเวณนี้จึงเป็นการลงทุนที่มั่นคงในระยะยาว
หมวดหมู่ตัวอย่างสถานที่ใกล้เคียง
ช้อปปิ้ง/ไลฟ์สไตล์The mall บางกะปิ, Big C ลาดพร้าว, Lotus เลียบด่วน, Foodland, Central EastVille, Crystal Desihn Center (CDC)
ร้านสะดวกซื้อMax Value (เปิด 24 ชั่วโมง)
สถานพยาบาลโรงพยาบาลเวชธานี

ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสที่สวยงาม (หน้ากว้าง 21 เมตร ลึก 28 เมตร) ที่ดินใกล้ฉันแปลงนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ :

  1. บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่/พูลวิล่า : สร้างบ้านในฝันบนพื้นที่ 149 ตารางวา พร้อมสวนสวย
  2. โฮมออฟฟิศ/อพาร์ตเมนต์ขนาดเล็ก : ทำเลที่มีพื้นคอนกรีตเดิมช่วยลดต้นทุนเริ่มต้นในการก่อสร้าง
  3. ลงทุนเพื่อกำไร : ถือครองทรัพย์สินที่พร้อมพัฒนาในทำเลที่มีความต้องการสูง

ให้เช่าที่ดินศาลายา ที่ดินถมแล้วให้เช่า ใกล้ฉัน

ให้เช่าที่ดินแปลงสวย 3 งาน 75 ตารางวา ที่ดินถมแล้ว ถมด้วยดินดาน หรือ ดินซีแลค บดอัดอย่างดี พร้อมสร้างธุรกิจทันที!

(ลงประกาศเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 โดยทีมงานรับถมดิน)

หมดปัญหาเรื่องที่ดินต่ำ พบกับที่ดินแปลงงามในทำเลทองย่านศาลายา ใกล้ฉัน ที่เราได้ดำเนินการถมที่อย่างดีเยี่ยม เพื่อให้คุณเริ่มต้นธุรกิจได้รวดเร็วและมั่นคง ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการปรับหน้าดินอีกต่อไป ที่ดินพร้อมใช้ขนาด 3 งาน 75 ตารางวา แปลงนี้ คือรากฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของคุณ

จุดเด่นทำเลที่คุณต้องไม่พลาด
  • ทำเลทองฝั่งตรงข้าม : ตั้งอยู่ตรงข้าม หมู่บ้าน EZZEN ศาลายา ท่ามกลางชุมชนคุณภาพและกำลังซื้อสูง การันตีการมองเห็น และการเข้าถึงของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย!
  • รากฐานมั่นคงพร้อมต่อยอด : ที่ดินถูกถมเรียบร้อยแล้ว ลดความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม และช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น และประหยัดเวลา ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวของหน้าดินภายหลัง
  • เดินทางสะดวกสุดๆ : ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล เพียงไม่กี่นาที เชื่อมต่อการเดินทางได้ง่าย รองรับการสัญจรจากหลายทิศทาง
เปรียบเทียบความได้เปรียบ : ลงทุนบนที่ดินที่ถมแล้ว
จุดเปรียบเทียบที่ดินแปลงนี้ (ถมที่แล้ว)ที่ดินทั่วไป (ยังไม่ถม)
ความพร้อมในการเริ่มก่อสร้างพร้อมทันที ไม่ต้องรอปรับหน้าดินต้องใช้เวลา 1-3 เดือน ในการถม
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประหยัดค่าใช้จ่ายหลักหมื่นถึงแสนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจ้างทีมรับเหมา
ความเสี่ยงน้ำท่วม/แฉะต่ำมาก ระดับที่ดินสูงกว่ามาตรฐานสูงกว่า เสี่ยงต่อความเสียหาย
ความมั่นคงของโครงสร้างสูง, หน้าดินแน่น ปรับบดอัดแล้วอาจต้องเพิ่มเสาเข็มหรือโครงสร้าง
ศักยภาพไร้ขีดจำกัด! เหมาะกับธุรกิจใด?

ด้วยขนาดพื้นที่ที่ลงตัวและสภาพที่ดินที่ถมและปรับระดับมาอย่างดี ที่ดินแปลงใกล้ฉันนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนในหลากหลายรูปแบบ :

  • สายคาเฟ่/ร้านสะดวกซื้อ : ลงทุนทำคาเฟ่เก๋ๆ ดึงดูดนักศึกษา และคนในพื้นที่ หรือเปิดเป็นร้านสะดวกซื้อ/มินิมาท/เซเว่น เพื่อรองรับหมู่บ้านตรงข้าม และผู้สัญจรไปมา
  • สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ : สร้างเป็นร้านหมูกระทะ, ร้านอาหารขนาดใหญ่ หรือศูนย์บริการต่างๆ ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวางและมั่นคง
  • ทำธุรกิจได้หลากหลาย : ไม่ว่าจะเป็นอู่ซ่อมรถ, โกดังเก็บสินค้าขนาดเล็ก, หรืออื่นๆอีกมากมาย พื้นที่ที่พร้อมใช้งานนี้ตอบโจทย์ทุกความคิดสร้างสรรค์
ใกล้ทุกความเจริญ

รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก และสถานศึกษาชั้นนำ ทำให้ทำเลนี้มีชีวิตชีวาตลอดวัน :

  • เซ็นทรัล ศาลายา
  • ตลาด ศาลายา
  • แม็คโคร ศาลายา
  • โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตน์โกสินทร์
  • โรงเรียนสาธิตนานาชาติ
  • มหาวิทยาลัยมหิดล

ราคาเช่าสุดพิเศษ! เพียง 20,000 บาท / เดือน พร้อมให้เช่าทั้งระยะสั้นและระยะยาว (ตามตกลง)

อย่าปล่อยให้โอกาสสร้างธุรกิจบนที่ดินที่สมบูรณ์แบบ และพร้อมใช้งานหลุดมือไป การลงทุนบนพื้นที่ที่ถมดินแล้ว คือการเริ่มต้นที่เหนือกว่า

สนใจติดต่อด่วนเพื่อเข้าชมที่ดินจริง :
คุณเดชา

การสร้างกำแพงกันดิน เมื่อถมที่ดิน

กำแพงกันดิน คือ โครงสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อต้านทานแรงกดดันด้านข้างของมวลดิน (Lateral Earth Pressure) และ ป้องกันไม่ให้ดินที่อยู่ระดับสูงกว่าเกิดการพังทลายหรือไหลลงสู่พื้นที่ที่อยู่ระดับต่ำกว่า

  • ป้องกันดินไหล (Soil Retention) : ป้องกันไม่ให้ดินที่คุณถมไว้ไหลลงไปยังที่ดินของเพื่อนบ้าน หรือไหลลงสู่ถนนสาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อดินยังไม่เซตตัวเต็มที่
  • ความมั่นคงของโครงสร้าง : หากจะมีการก่อสร้างอาคาร ใกล้กับแนวเขตที่ถมดิน กำแพงกันดินจะช่วยรักษาเสถียรภาพของดินใต้ฐานรากอาคาร
  • การจัดการเขตแดน : เป็นการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจนและป้องกันข้อพิพาทกับเพื่อนบ้านเรื่องดินหรือน้ำ
2. กำแพงกันดินต้องสร้างเมื่อไหร่

โดยทั่วไปกำแพงกันดินจำเป็นเมื่อ :

  • ระดับดินต่างกันตั้งแต่ 50 ซม. ขึ้นไป : เมื่อความแตกต่างของระดับดินมีนัยสำคัญ แรงดันดินจะสูงขึ้นมาก
  • ตามข้อกำหนดของกฎหมาย : หากการถมดินของคุณเข้าเงื่อนไขที่ต้องแจ้ง/ขออนุญาตต่อท้องถิ่น มักจะต้องมีมาตราการป้องกันดินไหล ซึ่งกำแพงกันดินคือมาตรการมาตรฐาน
  • ป้องกันปัญหาเพื่อนบ้าน : แม้จะถมดินสูงเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าต้องการความสบายใจ และป้องกันปัญหาระยะยาว การมีกำแพงกันดินก็เป็นทางเลือกที่ดี
3. ประเภทของกำแพงกันดินที่นิยมใช้

ในงานถมที่ดินทั่วไป กำแพงกันดินที่ใช้กันมากที่สุด คือประเภทที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล) หรือโครงสร้างที่อาศัยน้ำหนัก

3.1 กำแพงกันดินแบบอาศัยน้ำหนัก (Gravity Retaining Wall)

  • ลักษณะ : อาศัยน้ำหนักของตัวโครงสร้างเองในการต้านทานแรงดันดิน มักทำจากหิน บล็อกคอนกรีต หรือคอนกรีตล้วนที่หนา
  • ความเหมาะสม : เหมาะสำหรับกำแพงที่มีความสูงไม่มาก (ไม่เกิน 2-3 เมตร)
  • ข้อดี : ก่อสร้างค่อนข้างง่ายและรวดเร็ว หากใช้บล็อกคอนกรีตสำเร็จรูป
https://www.ถมดิน.com

3.2 กำแพงกันดินแบบคานยื่น (Cantilever Retaining Wall)

  • ลักษณะ : เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัว ‘ T ‘ หรือ ‘ L ‘ คว่ำ อาศัยเหล็กเสริมและฐานรากที่ยืนออกไป (Base Slab) เพื่อดึงน้ำหนักของดินที่อยู่บนรากฐานมาช่วยต้านทานแรงดันดินด้านข้าง
  • ความเหมาะสม : เป็นประเภทที่นิยมใช้มากที่สุด สำหรับกำแพงที่มีความสูงปานกลางถึงสูง (ตั้งแต่ 2.5 เมตรขึ้นไป) ในงานก่อสร้างอาคาร
  • ข้อดี : โครงสร้างเรียงบางกว่าแบบอาศัยน้ำหนัก แต่มีความแข็งแรงสูงและประหยัดวัสดุมากกว่าในกรณีที่ผนังสูง

3.3 กำแพงกันดินแบบเสาเข็ม (Piling Retaining Wall)

  • ลักษณะ : ใช้เสาเข็มตอกหรือเจาะเรียงกันเป็นแนว มีการเสริมโครงสร้างคานรัดหัวเสา
  • ความเหมาะสม : ใช้ในกรณีที่พื้นที่จำกัดมาก และไม่ต้องการให้ฐานรากยื่นเข้าไปในที่ดินของเพื่อนบ้าน หรือกรณีที่ดินด้านล่างอ่อนมาก
4. องค์ประกอบสำคัญที่ห้ามมองข้าม

องค์ประกอบสำคัญที่สุดของกำแพงกันดิน คือ “การระบายน้ำ” เนื่องจากสาเหตุหลักที่ทำให้กำแพงกันดินพังคือ “น้ำ” ที่สะสมอยู่ในมวลดินด้านหลัง

ท่อระบายน้ำ (Drainage System)

  • Weep Holes (รูระบายน้ำ) : ควรติดตั้งรูระบายน้ำขนาดเล็กที่ด้านล่างของกำแพงเป็นระยะๆ เพื่อให้น้ำที่ซึมผ่านดินสามารถไหลออกมาได้
  • Backfill Drainage : ควรใชชั้นของวัสดุที่ระบายน้ำได้ดี (เช่น หินคลุก หรือกรวด) บริเวณด้านหลังกำแพงที่ติดกับดิน เพื่อช่วยให้การระบายน้ำไปยังรูระบายน้ำทำได้รวดเร็วขึ้น
กำแพงกันดินเมื่อต้องถมที่ดิน
กำแพงกันดินเมื่อต้องถมที่ดิน

ข้อควรจำ

หากไม่มีระบบระบายน้ำ เมื่อมีฝนตกหนัก น้ำจะไปรวมตัวอยู่ด้านหลังกำแพงกันดิน ซึ่งจะเพิ่มแรงอุทกสถิต (Hydrostatic Pressure) มหาศาล ซึ่งอาจผลักให้กำแพงที่ออกแบบมาดีแล้ว เกิดการร้าวหรือพังถล่มได้

5. คำแนะนำสำหรับเจ้าของที่ดิน
  • ปรึกษาวิศวกร : สำหรับกำแพงที่มีความสูงเกิน 1 เมตรขึ้นไป คุณควรจ้างวิศวกรโยธา มาออกแบบและคำนวณโครงสร้างกำแพงกันดินโดยเฉพาะ เพราะกำแพงกันดินต้องรับแรงมหาศาล และหากพังลงมาจะเกิดความเสียหายที่รุนแรง
  • ข้อตกลงกับเพื่อนบ้าน : การสร้างกำแพงกันดินที่อยู่ชิดแนวเขต ควรมีการพูดคุยกับเพื่อนบ้าน เพื่อขออนุญาตให้รากฐานหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของกำแพงอาจล้ำเข้าไปในเขตแดนเล็กน้อย (ในทางวิศวกรรม) เพื่อความมั่นคง หรือเพื่อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง หากกำแพงนั้นใช้ประโยชน์ร่วมกัน
การสร้างกำแพงกันดินคือการลงทุนเพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้โครงการถมที่ดินและการก่อสร้างของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่นค่ะ

การขออนุญาตถมที่ดิน

การขออนุญาตถมที่ดิน : กฎหมายและขั้นตอนที่ต้องรู้


การถมที่ดินนั้นอยู่ในภายใต้พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ซึ่งกำหนดให้การถมดินบางกรณีต้องมีการ “แจ้ง” หรือ “ขออนุญาต” ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น (เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล, เทศบาล, สำนักงานเขต)

เงื่อนไขที่ต้อง “แจ้ง” การถมดินตามกฎหมาย

ตามกฎหมายกำหนดว่า การถมดินที่มีพื้นที่ของเนินดินติดต่อเป็นผืนเดียวกันเกินกว่า 2,000 ตารางเมตร
(1 ไร่ 1 งาน หรือ 500 ตารางวา) และมีความสูงของเนินดินตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป ต้องทำการแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น

ขั้นตอนการขออนุญาต/แจ้ง

1. ติดต่อหน่วยงาน : ติดต่อกองช่าง หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบของ อบต. / เทศบาล / สำนักงานเขตในพื้นที่
2. ยื่นเอกสาร :

  • คำขออนุญาต/คำแจ้ง
  • สำเนาโฉนดที่ดิน (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้แจ้ง
  • แผนผังบริวณที่จะทำการถมดิน แสดงแนวเขตที่ดิน และที่ดินบริเวณข้างเคียง
  • วิธีการถมดิน และรายละเอียดความสูงที่ต้องการ
  • (กรณีพื้นที่เกินกำหนด) รายการคำนวณและแบบแพลน พร้อมลายเซ็นรับรองจากวิศวกรโยธา


3. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ : เจ้าหน้าที่จะออกตรวจสถานที่ และตรวจสอบเอกสารหลักฐาน
4. รอผลการพิจารณา : เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะแจ้งผลการพิจารณาภายใน 7 วัน (นับจากวันที่ยื่นเอกสารครบถ้วน)
5. ชำระค่าธรรมเนียม : ชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด (โดยปกติค่าธรรมเนียมใบรับแจ้งการถมดินจะอยู่ที่ฉบับละประมาณ 500 บาท )

ข้อควรระวัง : แม้จะไม่เข้าเกณฑ์ที่ต้อง “แจ้ง” แต่หากความถมดินทำให้เกิดการเสียหาย หรือกระทบต่อการระบายน้ำของเพื่อนบ้าน เจ้าของที่ก็ยังมีความผิดตามกฎหมายแพ่งและพานิชย์ และต้องรับผิดชอบในการแก้ไขความเสียหายนั้น การทำกำแพงกันดินจึงเป็นสิ่งสำคัณเสมอ

ราคาถมดิน การประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
ค่าใช้จ่ายในการถมดินจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะ ชนิดของดิน และ ระยะทางขนส่ง


1. ราคาถมดินต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (คิว)
ราคานี้เป็นราคาถมดินโดยประมาณ และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามพื้นที่ ภูมิประเทศ และช่วงเวลา :

ชนิดของดินราคาโดยประมาณต่อ 1 คิวคุณสมบัติโดยทั่วไป
ดินถม/ดินทั่วไป150 – 250 ดินผสม เนื้อดินไม่เน้นคุณภาพ
ดินดาน/ดินเหนียว200 – 300ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพ และความอุดมสมบูรณ์ในการเพาะปลูก
ดินลูกรัง250 – 350เหมาะสำหรับงานก่อสร้าง บดอัด

2. สูตรการคำนวณปริมาณดินและงบประมาณ
เพื่อให้เห็นภาพรวม เราจะใช้ตัวอย่างการถมที่ดิน 1 งาน (400 ตารางวา) สูง 1 เมตร :

รายละเอียดการคำนวณผลลัพธ์
พื้นที่ (..) x ความสูง (.)400 x 1400 คิว
เผื่อค่ายุบตัว 20%400 + (400 x 0.20)480 คิว
ราคาทั้งหมด (ใช้ดินลูกรัง)480 x 300144,000 บาท

ตัวอย่างงบประมาณรวม :
ราคาดิน (144,000 บาท) + ค่าแรง/ค่าเครื่องจักรบดอัด (ประมาณ 30,000 – 50,000) = ประมาณ 174,000 – 194,000 บาท
ราคานี้เป็นค่าประมาณการเบื้องต้น ควรตรวจสอบราคากับผู้รับเหมาในพื้นที่จริงอีกครั้ง

สรุป : การถมที่ดินที่ถูกกฎหมายและคุ้มค่า ต้องเริ่มจากการวัดระดับ และคำนวณปริมาณดินให้แม่นยำ และดำเนินการแจ้ง/ขออนุญาตต่อท้องถิ่นให้เรียบร้อยก่อนเริ่มเสมอ

คู่มือสำหรับการถมที่ดิน

รับถมดินเกรียงไกร
รับถมที่ดิน กรุงเทพฯ ปริมณฑล

เตรียมความพร้อมสำหรับการก่อสร้าง : การปรับระดับพื้นดินให้สม่ำเสมอให้มีความแข็งแรงที่เหมาะสม จะช่วยให้งานรากฐานง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงที่อาคารจะทรุดตัว

ปรับปรุงภูมิทัศน์ : ทำให้ที่ดินมีทัศนียภาพที่สวยงาม และใช้งานพื้นที่ได้เต็มศักยภาพ

  • ดินลูกรัง : มีสีแดงหรือน้ำตาลแดง มีคุณสมบัติแห้งเร็ว ระบายน้ำได้ดี และแน่นตัวสูง เหมาะสำหรับการถมที่เพื่อก่อสร้าง เนื่องจากมีความแข็งแรงและราคาไม่สูง แต่มีข้อเสียคือมีความแข็งมาก จนไม่เหมาะกับการทำเพาะปลูก
  • ดินทราย : มีราคาถูก แต่มีการระบายน้ำที่เร็วมาก และอาจเกิดการทรุดตัวได้ง่าย หากไม่มีการบดอัดที่เหมาะสม นิยมใช้ปรับระดับพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมากนัก
  • ดินดาน/ดินเหนียว : เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์น้อย เนื้อแน่น แต่ถ้าใช้ถมในปริมาณมากจะต้องระวังเรื่องการระบายน้ำ เพราะดินเหนียวจะอุ้มน้ำและแห้งช้า อาจทำให้เกิดปัญหาดินอ่อนตัวได้

ข้อควรระวัง : ควรหลีกเลี่ยงการใช้ขยะมูลฝอย หรือเศษวัสดุก่อสร้างมาถมที่ เพราะอาจทำให้เกิดการทรุดตัวที่ไม่สม่ำเสมอ เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค หรือสัตว์พาหะ และอาจผิดกฎหมาย

3.1 การสำรวจและการวัดระดับ (Survey)
จ้างวิศวกรหรือช่างรังวัดมาสำรวจ และวัดระดับความสูง-ต่ำของที่ดิน รวมถึงเปรียบเทียบกับระดับถนนและที่ดินข้างเคียง เพื่อกำหนดระดับถมที่ต้องการอย่างแม่นยำ

3.2 การคำนวณปริมาณดิน
คำนวณปริมาณดินที่ต้องใช้เป็น ลูกบาศก์เมตร
ข้อควรจำเผื่อต้องการค่า “การยุบตัว” (Compaction) ของดิน ซึ่งปกติจะอยู่ที่ประมาณ 20%-30% หมายความว่าคุณอาจจะต้องสั่งดินเพิ่ม 20%-30% จากปริมาณที่คำนวณได้ เพื่อให้ได้ความสูงตามต้องการหลังการบดอัดและทรุดตัว

3.3 ระยะเวลาพักดิน
หลังจากถมดินเสร็จ ควรปล่อยให้ดิน “เซตตัว” หรือ “ยุบตัว” ก่อนเริมงานก่อสร้างจริง ระยะเวลาพักดินที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ 6-12 เดือน หากต้องการก่อสร้างเร่งด่วน ควรปรึกษาวิศวกรเพื่อพิจารณาการบดอัดและฐานรากที่เหมาะสม

การถมที่ดินไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยพลการ เจ้าของที่ดินต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

กฎหมายควบคุมอาคาร : การถมที่ดินเพื่อเปลี่ยนระดับพื้นดิน ต้องระวังไม่ให้กระทบต่อระบบระบายน้ำสาธารณะ

ข้อบัญญัติท้องถิ่น : องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่น เทศบาล หรือ อบต. อาจมีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับความสูงของการถมดิน การป้องกันการพังทลายของดิน และการระบายน้ำไปยังที่ดินข้างเคียง

การแจ้งเพื่อนบ้าน : ควรแจ้งหรือพูดคุยกับเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันข้อพิพาทเรื่องดินไหล หรือน้ำท่วม
สำคัญมาก หากการถมดินทำให้ระดับพื้นดินสูงขึ้นมาก และอาจส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้าน ควรสร้าง “กำแพงกันดิน” หรือ “รั้วคอนกรีต” เพื่อป้องกันดินไหลไปรบกวนพื้นที่ข้างเคียง

การถมที่ดินที่สำเร็จต้องอาศัยการวางแผนที่รอบครอบ การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม และความเข้าใจในข้อกฎหมาย การลงทุนในขั้นตอนเหล่านี้ จะนำมาซึ่งความมั่นคงและคุ้มค่าในระยะยาวสำหรับการพัฒนาที่ดินของคุณ